วัวชน หรือ กีฬาวัวชน คือกีฬาพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ในอดีตนับว่าเป็นกีฬาที่สร้างขึ้นมาเพื่อความสนุกสนาน โดยจะมีกติกาในการแข่งขันถึง 35 ข้อ จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ที่รับชมกีฬาวัวชน เกิดความสนุกตื่นเต้น และ ประทับใจในการแข่งขันกีฬาวัวชน และในเวลาต่อมาได้มีการเดิมพันวัวชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนาน และ เพิ่มความตื่นเต้น ให้กับกีฬาวัวชนได้เป็นอย่างดี และในปัจจุบันนี้ทางเว็บ WUACHON888.INFO ได้ทำการพัฒนารูปแบบการเดิมพันวัวชน ให้กลายเป็นการ แทงวัวชน ผ่านทางระบบออนไลน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ที่ต้องการเดิมพัน จนในปัจจุบันนี้เว็บ wuachon888 ได้กลายเป็นเว็บไซต์เดิมพันวัวชนออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2567 เลยทีเดียว
ล่องใต้ตามหาฝัน ปากประสร้างชื่อ ชนวัวลือเลื่อง โนราเมืองลุง กิจกรรมทัศนาจรถ่ายภาพครั้งที่ 5/2555
กิจกรรมทัศนาจรถ่ายภาพครั้งที่ 5/2555 ซึ่งเป็นทริปใหญ่ประจำปีนี้ทางคณะกรรมการมีมติพาสมาชิกล่องใต้ตามหาฝัน โดยมีจุดมุ่งหมายเป็น 3 จังหวัดภาคใต้ นครศรีธรรมราช พัทลุงและตรัง ซึ่งเริ่มออกเดินทางในเย็นวันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม นัดไว้ว่าจะออกเดินทาง 18.00 น. ว่าจะออกเดินทางจากปั๊ม ปตท.ดินแดง แต่กว่าจะออกได้จริงๆ ก็ 18.30 น.
และแวะรับจุดที่สองหน้าห้างโลตัส ถนนพระราม 2 ก็ปาเข้าไป 19.30 น. แต่ก็ถือว่าออกจากกรุงเทพ ได้เร็วกว่าที่คาดไว้สำหรับช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ และมีสมาชิกหน้าใหม่ ที่มาเป็นครั้งแรกอาทิ คุณสุธิดา, คุณขนบพันธุ์, คุณชาญณรงค์, คุณกีรติกานต์ และคุณชลธิดา และสมาชิกขาประจำอีกหลายท่าน โดยแวะรับประทานข้าวต้มรอบดึกที่ ห้องอาหาร “คุณสาหร่าย” จ.ชุมพร
และทัศนาจรล่องใต้ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ต่อจากเมื่อปี 2550 และก็เหมือนเดิมก่อนไปดูพยากรณ์อากาศ แต่ละจังหวัดที่จะไปฝนคาดว่าจะตกไม่ น้อยกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ แต่เราก็ไม่ย่อท้อหวังว่าประวัติศาสตร์ จะซ้ำรอยอีกครั้ง ซึ่งเช้าวันศุกร์ที่ 10 เราไปถึงประมาณ 6.00 น. โดยมีคุณหมอรังสิต และคุณธวัชชัย (พี่ปุ่น) มารับเราแต่เช้า เพื่อถ่ายภาพวิถีชีวิตชาวประมงที่ปากน้ำ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช แต่วันนี้ฟ้าก็ยังไม่เป็นใจพระอาทิตย์ขึ้นแบบธรรมดาไม่มีสีสันอะไร จากนั้นแวะรับประทานอาหารเช้าที่ “ปากน้ำกลาย” และรีบเดินทางไปถ่ายภาพการแข่งขัน “กีฬาชนโค” ซึ่งจังหวะที่เราไปนั้นสนามแข่งขันอยู่จังหวัดตรัง เราจึงต้องเดินทางไปจังหวัดตรัง กว่าจะไปถึงก็ 11.30 น.
ซึ่งทางพี่ปุ่นติดต่อกับผู้จัดการ สนามชนโคเทศบาลนครตรัง ประสานงานให้สมาชิกของเราเข้าไปถ่ายภาพ การถ่ายภาพในสนามนั้นสามารถถ่ายวัวได้หลายอย่าง เพราะเมื่อวัวเข้ามาในสนาม ก่อนชนจะมีการเช็ดล้างวัวก่อนชน โดยทางสนามจะมีกรรมการกลาง ที่จัดเตรียมไว้ประจำมุมที่โคไปยีนอยู่เตรียมเช็ค ล้าง ข้างละ 1 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกัน การใช้สารของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปยา น้ำมัน หรือ สมุนไพรมีพิษทาไว้ที่ตัววัวหรือที่เขา
และพี่เลี้ยงจะใช้กล้วย หรือผลตาลโตนดสุก ทาทั่วหน้า จมูก และคอของวัว เพื่อกลบกลิ่นสาบของคู่ต่อสู้ โดยเชื่อว่าวัว เป็นสัตว์ที่ให้ความสำคัญ ต่อขั้นลำดับอาวุโสซึ่งสามารถสัมผัส ได้โดยทางกลิ่นสาบ วัวที่หนุ่มกว่าจะเกรงในศักดิ์ศรีของวัวที่แก่กว่า ถ้าให้ชนกันวัวหนุ่มจะวิ่งหนี และวัวที่จะใช้ชนนั้น จะต้องเป็นพันธุ์วัวชนโดยเฉพาะ
จากนั้นวัวชนเราก็จับจังหวะ แทบจะตลอดเวลาเพราะบางคู่ก็แพ้ชนะกันไว มาก บางคู่ก็นานมากจึงจะรู้แพ้ชนะกัน บางครั้งก็สามารถถ่ายระเบิดซูมเล่นก็ได้ เวลาอยู่ในสนามจะได้ยินเสียงกลอง เมื่อตีกลอง 2 ครั้งให้พาวัวเข้าชน โดยมีคนพาเข้าชน และห้ามตีวัวฝ่ายตรงข้าม แต่วัวฝ่ายตัวเองให้ตีได้ และวัวที่ล้ม ถ้าไม่ลุกภายใน 5 นาทีถือว่าแพ้ ถ้าลุกก่อนให้ชนต่อไปได้ ถ้าลุกแล้วหนี กรรมการจะให้เวลา 5 นาที ถ้าไม่ชนถือว่าแพ้เด็ดขาด จริง ๆ แล้วกติกายังมีอีกมาก แต่เมื่อวัวแพ้ชนะ เรายังสามารถถ่ายภาพ ตัวที่ชนะได้เพราะตัวที่ชนะ จะมีการตบแต่งเครื่องประดับ และเสื้อคลุมวัวชน (บางครั้งบางสนามแล้วแต่เจ้าของวัว) กว่าจะออกจากสนามชนวัว 13.45 น. ซึ่งคงจะเป็นประวัติศาสตร์แล้วสำหรับ “สนามชนโคเทศบาลนครตรัง” เพราะทางเทศบาลนครตรัง จะขอพื้นที่บริเวณนี้คืน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นต่อไปแล้ว
แวะรับประทานอาหารเที่ยงที่ ร้านทางเลือก จากเดินทางกลับจังหวัดพัทลุง เพื่อเดินชมและถ่ายภาพ “อเมซอนเมืองไทย” ป่าเสม็ดขาว ณ สวนพฤกษศาสตร์พัทลุง ในเวลา 16.30 น. แต่ก็ไม่สามารถเดินชมดั่งใจได้เพราะ ก่อนหน้าที่เรามาฝนตกไม่ใช่น้อยน้ำท่วม จึงเดินชมไม่สะดวก และทางเราเตรียมแบบเป็นเรือคยัท 3 ลำ
นอกนจากนี้ ยังมีเรือชาวบ้านซึ่งเป็นเรือไม้ กำลังจะออกหาปลา ตามปกติจึงกลายเป็นพระเอกแทน กว่าจะยอมเลิกถ่ายภาพ ก็ต่อเมื่อแสงเริ่มหมดลง จากนั้นเราเดินทางกลับเข้าที่พัก และรับประทานอาหารเย็น ณ.ห้องอาหาร “ล้านบัว” และคืนนี้พักผ่อนที่ “ล้านบัวรีสอร์ท” “สอยดาว” “ทวีสุข” อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
วันเสาร์ที่ 11 ธ.ค. 05.00 น. เดินทางถ่ายภาพ ชาวเรือที่บ้านปากประ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งใหม่ (นับว่าเป็นสถานที่สร้างชื่อให้กับสมาคมมาก เมื่อครั้งที่มาเมื่อปี 2550 ฉากนี้ได้รางวัลทั้งในและต่างประเทศ) ครั้งนี้ท้องฟ้าเป็นใจมาก เราจึงพาสมาชิกลงเรือไปถ่ายยอ ยักษ์ใกล้ ๆ แต่ก็มาสมาชิกอยู่ด้านบน ฉากนี้ที่น่าเสียดายก็คือ เหมือนยอที่มีอยู่จะลดน้อยลงไปมาก จากนั้นกลับมารับประทานอาหารเช้าที่ “ล้านบัวรีสอร์ท” และถ่ายภาพ “โนรา” จากโรงเรียนสตรีพัทลุง โดยจัดแสดง เพื่อถ่ายภาพที่หน้าทะเลน้อย กว่าจะได้ร่ำลาพัทลุงเวลาผ่านไป 9.45 น. จึงเดินทางไปนครศรีธรรมราช
12.00 น. รับประทานอาหารที่ร้าน “บ้านไร่นาวง” จากนั้นไปมัสยิด เพื่อถ่ายภาพหนูน้อยมุสลิมบริเวณ “มัสยิดการราหมาด (บ้านหัวทะเล)” สำหรับที่นี่เนื่องจากสถานที่ไม่กว้างนัก และมุมที่ถ่ายเป็นมุมที่ต้องใช้ เลนส์มุมกว้าง สมาชิกเราน่ารักมาก เข้าแถวคอยถ่ายภาพโดยไม่ต้องบอกหรือจัดระเบียบเลย (จริง ๆ แล้วก็อยากให้สมาชิกเราเป็นเช่นนี้ทุกฉาก ทุกสถานที่ เอื้อเฟื้อซึ่งกัน และกันเราก็ได้ภาพด้วยกันทั้งหมด)
จากนั้น 15.00 เดินทางไปปากน้ำพนัง เพื่อลงเรือ ส.ภักดีทราเวลชิพ “ล่องเรือลุ่มแม่น้ำปากพนัง เที่ยวแหลมตะลุมพุก ดูคอนโดนกแอ่นกินรัง ชมโรงสีโบราณ เขื่อนอุทกวิภาชประสิทธิ ลุ่มแม่น้ำปากพนัง” และรับประทานอาหารเย็น เป็นการเดินทางที่ต้องบอกว่าครั้งนี้ สมาคมเหมือนมาพักผ่อนให้สมาชิกนั่งเรือ ชมวิว กินอาหารเย็น พร้อมฟังเสียงเพลงจากอาจารย์ประสพ และสมาชิกที่ช่วยกันร้องเพลง ประมาณสามชั่วโมงเศษ จากนั้นจึงเข้าพักผ่อน ณ โรงแรมนครการ์เด้น
วันอาทิตย์ 12 ธ.ค. 05.30 น. พาสมาชิกถ่ายภาพ อาทิตย์ขึ้นที่ปากน้ำนครฯ โดยเรามีเรือมาเป็นแบบสามลำ แต่การสื่อสารลำบากไม่เข้าใจกัน จึงไม่ค่อยภาพที่ดังใจนัก ดีนะฟ้ายามเช้า ที่นี่วันนี้มีสีสันที่สวยงาม เรามาถึงก็สามารถถ่ายภาพได้เลย จากนั้น 07.00 น. อาหารเช้าที่โรงแรม และเดินทางกลับ 8.30 น. โดยเรามีฝนตกส่งเรามาตามทางเป็นระยะ จากสุราษฎร์ฯ จนถึงชุมพร จากนั้น แวะรับประทานอาหารเที่ยงที่ “ร้านอาหารคุณสาหร่าย” และรับประทานอาหารเย็น “ร้านอาหารน้ำทิพย์ ริมคลอง” กลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ เวลาประมาณ 21.30 น.