“สนามกีฬาชนโคนานาชาติรัตภูมิ”

จุดกำเนิด “สนามกีฬาชนโคนานาชาติรัตภูมิ” เกิดจากความตั้งใจอย่างสูงยิ่งในการยกระดับกีฬาชนวัวให้มีสนามที่มาตรฐาน

การเปิดสนามกีฬาชนโคนานาชาติรัตภูมิ เกิดจากความตั้งใจอย่างสูงยิ่งใน การยกระดับกีฬาชนวัวให้มีสนามที่มาตรฐาน มีความปลอดภัยต่อคนดู รองรับกลุ่มผู้ชมที่ขยายตัวมากยิ่งขึ้นไม่ใช่เพียงแค่ในภาคใต้แต่วันนี้กีฬาวัวชนได้รับการยอมรับจากทั่วประเทศแต่ยังไม่มีสนามที่มาตรฐานที่จะรองรับการก้าวสู่อาเซียน และการทำให้เพื่อนบ้านได้รู้จักกีฬาชนิดนี้เพื่อให้อนาคตของกีฬาชนวัวก้าวสู๋ระดับนานาชาติสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสงขลาการชนโคไม่อยากให้มองแค่การทรมานสัตว์หรือการพนันแต่เป็นกีฬาภูมิปญญาที่สืบทอดมานานแล้ว

กีฬาวัวชนสร้างเศรษฐกิจเพราะมีเงินสะพัดในพื้นที่ ราคาวัวชนมีตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้าน การขายหญ้าซึ่งปัจจุบันมีผู้ปลูกขายเป็นอาชีพมีรายได้ที่กว่าปลูกผักด้วยซ้ำ ร้านค้าร้านอาหารในพื้นที่มากมายสามารถขายสินค้าได้ และในอนาคตเราจะเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับสถานที่แห่งนี้ ให้มีที่พัก ร้านอาหาร สถานที่พักผ่อน ให้เป็นสนามชนโคที่มาตรฐานและดีที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้สำหรับสนามกีฬาชนโคนานาชาติรัตภูมิ นำทีมบริหารโดย นายกชาย เดชอิชม์ ขาวทอง อดีตนายก อบจ สงขลา พร้อมลูกชายสุดเลิฟ ลูกเสือ วงศ์วชิระ ขาวทอง นายสนามพร้อมทีมงานผู้ดูแลสนามที่เชี่ยวชาญด้านกีฬาวัวชนจากทั่วสารทิศมาร่วมดูแล

สนามกีฬาชนโคน้องใหม่ที่มีคุณภาพคับแก้ว รับประกันความมาตรฐานและจัดชนวัวด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม เพื่อให้การแข่งขันกีฬาชนโคเป็นกีฬาชีพ กีฬาแห่งภูมิปัญญาอย่างแท้จริง นายกชาย เปิดเผยว่าวันนี้ไม่มีพรรค มีแต่พวก เพราะตัวเองในอดีตสมัยเป็นนักการเมืองมีสีเสื้อ มีสังกัดบางครั้งถูกมองเป็นฝ่ายตรงข้าม คนละสีคนละฝ่ายกันบ้าง แต่วันนี้ไม่มีตำแหน่งในเวทีการเมือง ไม่มีพรรคการเมืองสังกัด มีแต่พวกพ้องน้องพี่ในทุกวงการ นอกเหนือจากการทำธุรกิจส่วนตัว

ตอนนี้ก็ได้ให้การสนับสนุนกีฬาด้วยการเป็นประธานสโมสรฟุตบอลหาดใหญ่ เอฟซี ในฐานะประธานสโมสรอยู่ด้วยโดยในเดือนมีนาคม 2560 ณ สนามกีฬาชนโคนานาชาติ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เคยถูกบันทึกสถิติมูลค่าสูงสุดของเงินเดิมพันวัวหนึ่งคู่ คือ 24 ล้านบาทแต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 นำมาซึ่งการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มข้นในเดือนมีนาคม 2563 ทำให้สนามกีฬา รวมถึงสถานที่เล่นพนันถูกสั่งปิด ธุรกิจวัวชนซึ่งมีการพนันเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

เพราะไม่สามารถแข่งขันได้ ในปี 2564 เจ้าของวัวชนรายหนึ่งใน อ.คลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เผยว่า จำใจต้องขายวัวชนที่เคยมีมูลค่าหลายแสนบาท ในราคาไม่กี่หมื่นบาท เพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครัวก่อนโควิด เอาวัวไปแข่งก็หาเงินได้วันละ 2-3 พันบาทสบาย ๆ แต่พอมีโควิด กิจกรรมที่มีการรวมตัวทุกอย่างถูกห้าม การแข่งวัวชนแบบเป็นทางการจึงไม่มีเกิดขึ้นเลย มีเพียงแค่ คนเลี้ยงวัวเอามาชนกันเอง ถือว่า วัวชนได้รับผลกระทบมาก แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ได้กลับมาขยายพันธุ์วัว”

เพียร ช่วยหวัง เจ้าของวัวชนจาก ต.นาบินหลา อ.เมือง จ.ตรัง กล่าวเพียร ระบุว่า ช่วงโควิด-19 ระบาด เขาหันมาเพาะพันธุ์วัวชนขาย โดยวัวชนจะได้ราคาดีกว่าวัวเนื้อ เพราะสามารถขายได้ตัวละเกือบ 8 หมื่นบาท ขณะที่วัวเนื้อขายได้เพียง 3.5 หมื่นบาท การเลี้ยงวัวชน เจ้าของวัวชนต้องมีพื้นฐานที่ดีมากพอ

เพื่อที่จะสามารถดูแลสัตว์ชนิดนี้ให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งต้องตื่นเช้ามืดเพื่อพาวัวชนไปเดินฝึกความอดทน การให้ลงเล่นปลักดินโคลนเพื่อฝึกกล้ามเนื้อคอให้ขวิดได้อย่างแข็งแรง วัวกินหญ้าสามมื้อ อาบน้ำสามเวลาเป็นประจำทุกวัน ทำจนกระทั่งวัวเกิดความรู้สึกผูกพันธุ์กับเจ้าของหรือคนเลี้ยง“ดีใจที่ได้กลับมาแข่งชนวัวอีกครั้ง ก็น่าจะช่วยให้กลับมามีรายได้เหมือนก่อนโควิด เราก็หวังว่าจะไม่ถูกห้ามแข่งวัวอีก” เพียร กล่าวเพิ่มเติม

ติดตาม โปรแกรมวัวชน ผลวัวชน ข่าวสารวัวชน รวดเร็วก่อนใครได้ที่เพจเฟสบุ๊ค วัวชนแดนใต้888 หรือแอดมาที่ @BULLFIGHT888