วัวชนภาคใต้

วัวชนภาคใต้ นันทนาการชาวบ้านนา สู่กีฬา เป็นการพนันพื้นบ้านเจ็ดหมื่นล้าน

วัวชนภาคใต้ในอดีตเกิดที่นาชนกันที่ในท้องทุ่ง แต่ปัจจุบันสนามหรือบ่อนวัวชนจะเติบโตในพื้นที่แถบบริเวณสวนยางพาราหรือชุมชนเมืองหรือชานเมือง หรืออาจจะเป็นพื้นที่ชุมชนตลาดอาจจะสําหรับชุมชนชาวจีน เป็นการพนันเชิงวัฒนธรรมพื้นบ้านเพราะคนจํานวนมากมักไปชมวัวเพราะมาจากความชื่นชอบกับลีลาการชนของวัวแต่ละตัวพร้อม ๆกับเป้าหมายสูงสุด คือ การพนันยิ่งนาข้าวและท้องทุ่งหมดไปเพราะพืชเศรษฐกิจแบบใหม่ภายใต้การส่งเสริมของราชการอื่นๆ มาแทนพร้อมๆ กับโคนมก็ยิ่งมีจํานวนเพิ่มขึ้นแต่วัวพื้นเมืองก็ยังได้รับความนิยมเลี้ยงโดยแรงจูงใจ คือ ราคาวัวที่แพงซื้อแพงเพราะวัวตัวนั้นมาจากสายเลือดวัวที่เคยชนและมีลีลาการชนที่ดุดันการซื้อด้วยเงินที่แพงเพราะต้องการครอบครองวัวดีสถานภาพทางสังคมสูงตามนําไปชนคนชอบ นายสนามก็ชื่นใจเพราะมีคนเดินทางมาชมและเล่นพนันมากค่าผ่านประตูก็รับเพิ่มขึ้นขายข้าวแกงได้ราคาเช่นนี้ วัวพื้นเมืองภาคใต้จึงเป็นวัวชนที่สามารถใช้เล่นการพนันอย่างสมใจนักการพนันเพราะเป็นการพนันที่เสียเปรียบน้อยเช่นนี้วัวภาคใต้จึงดํารงอยู่ท่ามกลางการพนันหากไม่มีพนัน จํานวนวัวพื้นเมืองแบบนี้ก็ลดลงไปเรื่อย ๆ เหมือนสภาพไก่แจ้ ในที่สุดก็สูญสิ้นลงไปเรื่อยๆ หมดพันธุ์ในอนาคตจนมีการรณรงค์พันธุ์วัวพื้นเมืองด้วยการชนวัว10 การดํารงอยู่ของวัวในบริบทการพนันและยิ่งนับวันบ่อนวัวชนมากขึ้นทั้งบ่อนที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ 28 บ่อน และไม่ได้รับอนุญาตอีกจํานวนมาก จํานวนวัวชนที่ต้องมีคือ ในปีหนึ่งมีประมาณ 13,440 ตัว หาก 1 ตัวสามารถชนได้ปีละ 3 ครั้ง คงมีวัวพร้อมชนได้จริงจํานวน 4,480 ตัว หากรวมกับบ่อนวัวชนที่ไม่ได้ใบรับอนุญาตอีกจํานวนมากกว่าบ่อนที่รับใบอนุญาตก็จะต้องมีวัวพร้อมชนจํานวนมากขึ้นกว่าอย่างน้อย 1 เท่าเศษ หรือหากคํานวณเชิงประมาณการแล้วพบว่าในแต่ละปีมีวัวพร้อมชนเกือบ 10,000 ตัว เช่นเดียวกับต้องผนวกเอาผู้คนเล่นพนันวัวชนและผู้คนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเลี้ยงวัวจํานวนมากพอๆกับเงินสดที่หมุนเวียนใน 28 สนามหรือบ่อนวัวชนไม่น้อยกว่า 73,113,600,000 ล้านบาทต่อปี ผู้คนเข้าไปเล่นพนันประมาณกว่า 200,000 คน โดยเล่นพนันในแต่ละวันต่อบ่อนไม่ตํ่ากว่า 2,310 คน เงินสดใช้เล่นการพนันต่อรองประมาณ 35,600,000 บาทต่อวัน ต่อบ่อนไม่นับรวมการเล่นเดิมพันที่แตกต่างกันในแต่ละคู่และเพิ่มจํานวนมากขึ้นด้วยวัวชนและบ่อนวัวชนเป็นนันทนาการของชาวบ้านนา ภาคใต้มีการพัฒนาประเด็นต่าง ๆ กล่าวคือ

1) คอกวัวชน หรือสังเวียนชนวัวในทุ่งนากลายเป็นสนามชนวัวและสุดท้ายเป็นบ่อนวัวชนและจํานวนบ่อนมีจํานวนมากขึ้น คือใน พ.ศ. 2542 มีบ่อนที่ขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย 21 บ่อน ในพื้นที่ 9 จังหวัดส่วนใน พ.ศ. 2555 มีบ่อนที่ขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย 28 บ่อน ในพื้นที่ 7 จังหวัดนั้นคือ ลดจํานวนพื้นที่ลงแต่เพิ่มความหนาแน่นของจํานวนบ่อนมากขึ้น

2) การชนวัวและบ่อนชนวัว ที่สามารถใช้ยกระดับของบุคคลให้เป็นชนชั้นนํา เช่น นายหัว และ นักเลง ในอดีต เส้นทางของนักการเมืองในนาม ผู้แทนราษฎร ในระดับต่างๆ ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับท้องที่ตลอดจนเป็นข้าราชการมีอยู่ทั่วไป

3) การเลี้ยงวัวชนจากทุ้งนาสู้การเลี้ยงด้วยภูมิปัญญาพื้นถิ่นพัฒนาไปสู่การเลี้ยงวัวเป็นฟาร์มวัวชนที่มีการจัดการเลี้ยงวัวผสมผสานด้วยวิทยาการ และมีแบบแผนการเลี้ยงและการฝึกซ้อม

4) การชนวัวที่เคยมีการจัดชนตามเทศกาลสําคัญของแต่บ้านหรือละชุมชนท้องถิ่น กลายเป็นการชนทุกๆ เดือนๆ ละประมาณ 2 – 3 วันต่อบ่อน ส่งผลให้มีการชนวัวตลอดทั้งเดือนหรือทุกวัน

5) มีระบบการบริหารจัดการในการเลี้ยงวัว การจัดหาหุ้นส่วนการสรรหาทีมงานมาใช้ในการดําเนินงานบ่อนและจัดการการชนวัว มีการบริหารจัดการที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น มีการใช้ระบบตลาดหรือการประชาสัมพันธ์มาช่วยจัดการมากขึ้นการใช้สนามวัวชนเป็นพื้นที่หรือเวทีหาเสียง

6) การมีวัวชนโดยเฉพาะวัวตัวดังๆ ไว้ในครอบครองถือว่าสามารถยกฐานะสถานภาพทางสังคมของเจ้าของวัวได้ส่งผลให้มีโอกาสนําวัวดังไว้ขายต่อให้เซียนวัวหรือนักเลงวัวชน

7) มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหรือความต่อเนื่องของกิจกรรมอื่นๆ เช่น มีรายการชนวัวในโทรทัศน์ มี Website ธุรกิจ CD วัวชน ธุรกิจในบ่อนวัวชน

8) มีวาทกรรมการเก็บเงินค่าผ่านประตูจากเชงเลงเปลี่ยนแปลงมาสู่ค่าเหยียบดินหรือค่าผ่านประตูชันนอก กล่าวถึงที่สุดในฐานะหน่วยทางธุรกิจนั้นเป็นกิจกรรมรายได้กําไรที่แฝงอยู่มากด้วยส่วนเงื่อนไขการชน วัวเท่ากัน คนเท่ากันเงินเท่ากันเป็นคุณลักษณะที่ง่ายที่สุดเข้าใจได้ง่ายแบบนักเลง แต่ก็ยังมีบรรทัดฐานเหมือนกัน เช่นวัวบ้านเดียวกัน ฟาร์มเดียวกันวัวของญาติหรือของคนที่เคารพนับถือจะไม่ชนกัน

ติดตาม โปรแกรมวัวชน ผลวัวชน ข่าวสาร รวดเร็วก่อนใครได้ที่เพจเฟสบุ๊ค สืบสานวัวชน หรือแอดมาที่ @Bullfight888

สนใจดูวัวชนสดก่อนใครสมัครสมาชิกเพื่อดูวัวชนเพียง 50 บาทห้ามพลาดเด็ดขาด!!